"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 123,473,371 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,647 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 962.8 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (113.2%)
➡️(24 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,647 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 28.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 551 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 215 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 962.8 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 342.9 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 123,473,371 โดส
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,647 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 123,473,371 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 53,282,587 โดส (80.5% ของประชากร)
-เข็มสอง 49,582,984 โดส (74.9% ของประชากร)
-เข็มสาม 19,607,800 โดส (29.6% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 24 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 123,473,371 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 287,899 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 252,925 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,896,782 โดส
- เข็มที่ 2 3,598,965 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,861,764 โดส
- เข็มที่ 2 28,423,522 โดส
- เข็มที่ 3 4,872,948 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,538,393 โดส
- เข็มที่ 2 7,232,089 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 8,242,471 โดส
- เข็มที่ 2 9,505,145 โดส
- เข็มที่ 3 11,692,742 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 743,177 โดส
- เข็มที่ 2 823,263 โดส
- เข็มที่ 3 3,042,110 โดส
4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 91.4% เข็มที่2 87.2% เข็มที่3 78.4%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 113.2% เข็มที่2 104.8% เข็มที่3 60.9%
3. นนทบุรี เข็มที่1 82.1% เข็มที่2 78.4% เข็มที่3 56.2%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 91.8% เข็มที่2 80.7% เข็มที่3 52.2%
5. อยุธยา เข็มที่1 74.3% เข็มที่2 71.4% เข็มที่3 39.3%
6. ลำพูน เข็มที่1 80.9% เข็มที่2 77.2% เข็มที่3 39.2%
7. ระยอง เข็มที่1 84.4% เข็มที่2 80.6% เข็มที่3 37.8%
8. ชลบุรี เข็มที่1 82.9% เข็มที่2 79% เข็มที่3 33.7%
9. นครปฐม เข็มที่1 77.2% เข็มที่2 76,1% เข็มที่3 33,1%
10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 81.9% เข็มที่2 69.6% เข็มที่3 32.2%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. นราธิวาส เข็มที่1 55.7% เข็มที่2 44.9% เข็มที่3 6.1%
2. ปัตตานี เข็มที่1 56.8% เข็มที่2 45.5% เข็มที่3 6.1%
3. บึงกาฬ เข็มที่1 63.7% เข็มที่2 56.3% เข็มที่3 8.4%
4. ยะลา เข็มที่1 62.9% เข็มที่2 52.4% เข็มที่3 8.6%
5. หนองบัวลำภู เข็มที่1 63.1% เข็มที่2 57.6% เข็มที่3 10%
6. สตูล เข็มที่1 64.6% เข็มที่2 60% เข็มที่3 10.7%
7. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 66.2% เข็มที่2 60.3% เข็มที่3 11.6%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 58.3% เข็มที่2 48.9% เข็มที่3 11.6%
9. สกลนคร เข็มที่1 65.7% เข็มที่2 59.4% เข็มที่3 11.8%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 70.1% เข็มที่2 65% เข็มที่3 12.3%
3. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 962,871,484 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 342,944,688 โดส (69%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 192,403,472 โดส (81.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 134,927,975 โดส (56%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 123,473,371 โดส (80.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 66,589,636 โดส (82%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 44,208,482 โดส (42.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 35,734,631 โดส (85.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,452,417 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 9,131,639 โดส (65.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 1,005,173 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
4. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.61%
2. ยุโรป 10.19%
3. อเมริกาเหนือ 8.67%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.19%
5. แอฟริกา 3.71%
6. โอเชียเนีย 0.63%
5. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,101.76 ล้านโดส (219.3% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,767.46 ล้านโดส (128.2%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 551.42 ล้านโดส (164.5%)
4. บราซิล จำนวน 388.31 ล้านโดส (183.4%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 342.94 ล้านโดส (124.3%)
6. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (307.8%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (259.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (247.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. มัลดีฟส์ (234.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
5. กาตาร์ (233.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
6. บาห์เรน (230.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
7. เกาหลีใต้ (229.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
8. สิงคโปร์ (228.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
9. บรูไน (228%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
10. เดนมาร์ก (226.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.